วันนี้ 29 มิ.ย. 2566 ทีมข่าวพบกับนายฐิติวัฒน์หลังพยายามสืบหาจนได้ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ในเทศบาลตำบลเทพารักษ์ว่านายฐิติวัฒน์ เข้าไปเซ็นชื่อเข้างานก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Honda MSX กลับบ้านคำพูดจาก สล็อตวอเลท
ทีมข่าวตามไปที่บ้านนายฐิติวัฒน์ พบว่าวันนี้บ้านล็อกกุญแจ ทั้งประตูรั้วและประตูด้านใน จึงวนรถสำรวจในหมู่บ้าน กระทั่งเจอเจอนายฐิติวัฒน์ ขี่รถกลับเข้ามาจึงขับรถตามไปขอให้ชี้แจงว่ามีการเก็บเงินพ่อค้า-แม่ค้าตามที่ถูกกล่าวหาจริงหรือไม่
แฉ!อีก เทศกิจส่งลูกน้องรีดส่วยร้านค้า
แฉ! ส่วยเทศกิจ รีดเงินพ่อค้า-แม่ค้าแผงลอย
ช่วงแรกนายฐิติวัฒน์ ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ บอกแค่ว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง และขอให้ข้อมูลกับคณะกรรมการเท่านั้น ก่อนยอมรับว่า มีการเก็บเงินจริงเป็นค่าปรับ แต่อ้างว่าเงินที่ได้รับส่งเข้ากองคลังทั้งหมดไม่ได้เก็บเข้ากระเป๋าตัวเองซึ่งส่วนนี้มีหลักฐานหมดทุกอย่าง
ส่วนหัวหน้าฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ที่ถูกนายสาธิต อดีตเพื่อนร่วมงานที่ออกมาแฉเรื่องนี้ ระบุว่า เป็นหัวหน้าขบวนการ นายฐิติวัฒน์ ปฏิเสธว่า หัวหน้าฝ่ายฯไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ส่วนคนชื่อ "ออย" ที่พ่อค้าแม่ค้าระบุว่า เป็นคนที่ นายฐิติวัฒน์ ส่งไปเก็บเงินนั้น ก็ไม่รู้จัก และยังบอกว่า นายสาธิต จงใจกลั่นแกล้ง ตัวเองเพราะมีความไม่ชอบกันจตั้งแต่เข้ามาทำงาน
ทีมข่าวได้ข้อมูลว่าบ้านของนายออย ก็อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันกับ นายฐิติวัฒน์ ถัดไปอีกหนึ่งซอย จึงลงพื้นที่ไปเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง
ตอนแรกประตูกระจกด้านในบ้านเปิดอยู่ แต่พอทีมข่าวเดินไปถึงหน้าบ้าน ปรากฏว่า กลับมีการปิดประตูในบ้าน ซึ่งภายในรั้วบ้าน พบรถกระบะและรถจักรยานยนต์จอดอยู่ แต่พอกดกริ่งไม่มีใครออกมาเปิดประตู
สอบถามเพื่อนบ้านใกล้เคียง บอกว่า บ้านของนายออย อาศัยอยู่กัน 3 คน คือ พ่อ แม่ และนายออย ส่วนความคืบหน้าเรื่องการสอบการทุจริตเรียกรับผลประโยชน์ส่วยเทศกิจ ล่าสุด คณะกรรมการได้เรียก นายสาธิต เทศกิจที่ร้องเรียนเรื่องนี้ไปสอบฐานะผู้ร้องเรียน
ทีมข่าวไปพบกับนายสาธิตถามประเด็นที่ นายฐิติวัฒน์ อ้างว่า เงินทั้งหมดที่ไปเรียกเก็บจากพ่อค้าแม่ค้า ได้นำส่งให้กองคลังทั้งหมด
เรื่องนี้นายสาธิต ให้ข้อสังเกตุว่า หากส่งกองคลังจริงก็ต้องเปรียบเทียบปรับหน้าร้าน และมีใบเสร็จยืนยัน แต่ที่ผ่านมา พ่อค้า-แม่ค้าไม่เคยได้รับใบเสร็จเลย และยังยืนยันว่า หัวหน้าฝ่ายฯที่นายฐิติวัฒน์ ให้การว่าไม่เกี่ยวข้อง คือตัวการหลักของบวนการนี้
นายสาธิต ยังยอมรับว่า ตัวเองไม่นายฐิติวัฒน์จริง เพราะนายฐิติวัฒน์ ไม่ค่อยทำงานชอบใช้เวลางานไปทำธุระส่วนตัว แต่ยืนยันว่า ที่นำเรื่องส่วยเทศกิจมาเปิดเผย เพราะเห็นถึงความไม่ถูกต้อง ไม่ใช่การกลั่นแกล้ง และมั่นใจว่า หลักฐานที่ตัวเองมีอยู่ เพียงพอที่จะเปิดโปงให้ขบวนการนี้ได้รับโทษวินัยร้ายแรง ถึงขั้นให้ออกจากข้าราชการ รวมถึงโทษทางอาญาทั้ง ม.149 และ ม.157 ด้วย